Fire-resistant glass
Fire-resistant glass
Fire-resistant laminated glass: This is a type of specially tempered safety glass laminated with multiple layers of tempered glass using Sodium Silicate, giving it the ability to withstand fire for up to 2 hours without deforming.
It prevents fire and smoke and reduces heat transmission into the interior.
Fire-resistant glass is designed for situations and applications that require maximum reliability.
It can prevent smoke and reduce hazards from heat transmission.
Fire-resistant glass is classified according to its fire protection duration (30, 60, 90, 120, and 180 minutes) and its Integrity and Insulation properties, or Integrity properties only.
Fire-resistant glass is only one component of a tested and certified system, and must be installed by experts to ensure that both the system and glass meet the required specifications and can be used safely
Bullet-resistant glass is designed to protect against firearms of varying calibers and impact levels.
The number of layers, thickness, and type of interlayer film vary depending on the level of protection required.
When struck by a bullet or other objects, the broken fragments remain adhered, maintaining the overall integrity of the glass, with only cracks appearing on the surface.
Additionally, to account for external impact from bullets and safety from potential flying glass shards, different types of films can be used on the interior and exterior sides of the glass
- Class EI: This represents the highest level of fire protection. Glass at this level must be able to prevent the passage of smoke and heat during a fire for the specified duration
- Class EW: Fire-resistant glass at this level must meet Integrity requirements and, at the same time, partially prevent the passage of heat
- Class E: Fire-resistant glass at this level can prevent the passage of smoke and remain transparent during a fire, but it does not protect against heat that could cause damage during the fire
กระจกกันกระสุน
กระจกกันกระสุนจัดอยู่ในกระจกนิรภัยประเภทกระจกลามิเนต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีการทำกระจก หลายชั้น โดยจะใช้ฟิล์มที่มีความเหนียวพิเศษ และต้องโปร่งใสเมื่อโดนความร้อน คั่นกลางระหว่างชั้นของกระจก ฟิล์มที่ใช้ได้แก่ ฟิล์มโพลีไวนิลบิวทีรัลชนิดพิเศษ ฟิล์มโพลิคาร์บอเนต ในกระบวนการผลิตกระจกแต่ละชั้นที่มีฟิล์ม คั่นกลาง จะถูกอัดประกบให้ติดกันโดยใช้ความร้อน ประมาณ 120-130 องศาเซลเซียส แล้วผ่านการรีดด้วยลูกกลิ้ง เพื่อให้กระจกติดกันสนิทมากขึ้น จากนั้นก็นำไปอบในตู้อบที่ควบคุมทั้งความร้อนและความดัน จะได้กระจกที่ใสมาก จนมองไม่เห็นแผ่นฟิล์ม มีความเหนียวและความแข็งแรงมากพอที่จะกันกระสุนได้
เพื่อป้องกันกระสุนปืนชนิดต่างๆ ที่มีความรุนแรงต่างกัน กระจกกันกระสุนจึงมีจำนวนชั้นและความหนาแตกต่างกันไป รวมทั้งชนิดของฟิล์มที่ใช้ก็แตกต่างกันออกไปด้วย เมื่อถูกกระแทกจากกระสุนปืนหรือวัตถุอื่นๆ ชิ้นส่วนที่แตกจะไม่หลุด ออกจากกัน ยังคงสภาพเดิมเพียงแต่มีรอยร้าวเกิดขึ้นบนแผ่นกระจกเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าต้องคำนึงถึงแรงกระแทกที่มา จากกระสุนทางด้านนอก และความปลอดภัยจากเศษกระจกที่อาจจะกระเด็นออกมาได้เมื่อถูกกระสุนก็สามารถเลือกใช้ ฟิล์มต่างชนิดกันระหว่างด้านในและด้านนอกได้
กระจกกันกระสุนแบบทั่วไปโดยปกติมีแรงต้านกระสุนปืนรีวอลเวอร์ในระยะ 1-30 เมตรได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้กระจกกันกระสุนหรือกระจกลามิเนตนี้ ยังสามารถป้องกันขโมยได้ผลดี เพราะว่ายากแก่การเจาะผ่านฟิล์มได้ ในปัจจุบันท่านก็อาจจะได้พบเห็นกระจกกันกระสุนบ้าง เช่น กระจกสำหรับประตูกันกระสุนกระจกในรถขนส่งเงิน รถนักโทษ รถทหาร หน้าต่างฝากถอนเงินของพนักงานในธนาคาร กระจกสำหรับห้องวีไอพี และกระจกอาคารสถานทูตที่สำคัญ ๆ
รูปภาพผลงาน
ผลิตภัณฑ์
กระจก
กระจกทนไฟ
กระจกกันกระสุน
กระจกทนไฟ
เป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่งผลิตขึ้นจากกระจกนิรภัยชนิดพิเศษ และนำไปประกบกับกระจกนิรภัย หลายๆ ชั้น โดยมี Sodium Silicate มาทำลามิเนตกันจนมีคุณสมบัติสามารถทนไฟได้นานสุด 2 ชั่วโมง โดยไม่เสียรูป ป้องกัน ไฟ ควันและลดความร้อนที่จะเข้ามาสู่ภายใน
- Insulation : ความสามารถของระบบในการจำกัดความร้อนจากด้านที่เกิดจากเพลิงไหม้ไม่ให้ผ่านไปยังอีกด้านหนึ่ง อุณหภูมิที่วัดได้บนวัสดุกันไฟในด้านที่ไม่เกิดเพลิงไหม้เฉลี่ยทุกจุดต้องไม่เกิน 140 องศาเซลเซียส หรือ ไม่มีจุดใด จุดหนึ่งมีอุณหภูมิเกิน 180 องศาเซลเซียส
- Integrity : ความสามารถของระบบเมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้วจะไม่พังทลาย, ไม่มีรู, ช่อง หรือรอยแตกที่จะทำให้เปลวไฟ ผ่านไปยังอีกด้านหนึ่งได้ เนื่องจากความหลากหลายของข้อบังคับในการใช้กฎหมาย และความต้องการในการใช้ระบบ กันไฟ จึงมีการนิยามความหมายของการจัดแบ่งประเภทกระจกกันไฟให้เป็นมาตรฐาน 3 ประเภท
- Class EI : เป็นระดับการป้องกันสูงสุดเมื่อเกิดเพลิงไหม้ กระจกกันไฟที่อยู่ในระดับนี้ต้องมีความสามารถในการป้องกัน การผ่านของควันไฟ และ ความร้อนจากการเกิดเพลิงไหม้ตามระยะเวลาที่กำหนด
- Class EW : กระจกกันไฟในระดับนี้ต้องมีคุณสมบัติตาม Integrity และในขณะเดียวกันต้องสามารถป้องการผ่านของ ความร้อนได้บางส่วน
- Class E : กระจกกันไฟที่สามารถป้องกันการผ่านของควันไฟ และยังคงมองผ่านได้แม้ในขณะเกิดเพลิงไหม้ แต่ไม่สามารถป้องกันความร้อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายในขณะเกิดเพลิงไหม้ได้








